ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสนใจในเรื่อง สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยเมื่อไม่นานมานี้บริษัทอาหาร AZECHI (เมืองโคจิ,จังหวัดโคจิ) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภท ขนมและข้าวโพดคั่วรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า “วัสดุกันกระแทกที่สามารถรับประทานได้” (Taberareru Kanshouzai) ซึ่งเกิดจากการนำข้าวโพดคั่ว มาใช้แทนวัสดุกัน กระแทกแบบดั้งเดิมที่เป็น แผ่นพลาสติกอัดอากาศ, โฟม, แผ่นกระดาษลูกฟูก, ฝอยกระดาษ เป็นต้น
การนำข้าวโพดคั่วมาใช้แทนวัสดุกันกระแทกประเภทอื่น เกิดจากแนวคิดของประธานบริษัทอาหาร AZECHI โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง ออนไลน์ (E-Commerce) เช่น ทางเว็บไซต์ Rakuten ที่จ าเป็นต้องพึ่งพาการขนส่งและบรรจุภัณฑ์ในการส่ง สินค้าให้แก่ผู้บริโภค ประธานบริษัทอาหาร AZECHI จึงมีแนวคิดว่า “ในการขนส่งสินค้าซึ่งมีต้นทุนและภาระ ในเรื่องของค่าขนส่งนั้น ถ้าการใช้วัสดุกันกระแทกแบบเดิม ซึ่งเมื่อสินค้าถึงมือผู้บริโภคแล้วนั้น มันจะกลายเป็น ขยะ เปลี่ยนเป็นการใช้วัสดุกันกระแทกที่สามารถรับประทานได้ เช่น ข้าวโพดคั่ว ซึ่งจะทำาให้ผู้รับสินค้ามี ความสุขมากขึ้น” ภายหลังจากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลจากผู้บริโภคที่ได้รับสินค้าที่บรรจุวัสดุกันกระแทกที่สามารถ รับประทานได้ผ่านทางแอพพลิเคชันทวิตเตอร์ ก็มีเสียงตอบรับและเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ในกลุ่มผู้บริโภคอย่าง กว้างขวาง ซึ่งภายในไม่กี่ชั่วโมงมียอดการส่งต่อข้อความมากถึง 1000 ครั้ง แม้ว่าวัสดุกันกระแทกประเภทนี้อาจจะเป็นเรื่องใหม่ต่อสายตาผู้บริโภค แท้จริงแล้วบริษัทอาหาร AZECHI ได้เริ่มมีการนำข้าวโพดคั่วมาใช้แทนวัสดุกันกระแทกประเภทอื่นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 แล้ว แต่ในช่วง แรกนั้นข้าวโพดคั่วที่ใส่ลงไปในกล่องพัสดุนั้นถูกมองว่าเป็นขนมของแถมมากกว่าเป็นวัสดุกันกระแทก หลังจาก นั้นในปี พ.ศ.2558 บริษัทได้มีการระบุลงไปในซองผลิตภัณฑ์ว่าเป็น “วัสดุกันกระแทก” ซึ่งได้สร้างความ ประหลาดใจอย่างมาก จนในปีถัดมา เรื่องนี้ได้ถูกนำไปเป็นประเด็นในรายการโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนี้ บริษัทอาหาร AZECHI ได้ทำการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบใหม่พร้อมข้อความที่ระบุ ว่าเป็น “วัสดุกันกระแทกที่สามารถรับประทานได้” ซึ่งมีอายุในการรับประทานนับจากการผลิต 90 วัน และมี การพูดถึงอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ความตั้งใจแรกของวัสดุกันกระแทกประเภทนี้ คือ เพื่อใช้ในธุรกิจของตนเอง เพื่อต้องการให้ผู้บริโภคมีความสุขมากขึ้น แต่เพราะกระแสการตอบรับที่ดีในครั้งนี้ บริษัทอาหาร AZECHI จึง ได้มีโครงการขยายผลิตภัณฑ์วัสดุกันกระแทกชนิดนี้ไปใช้กับบริษัทอื่นๆ อีกด้วย*** ที่มาข่าวและรูปภาพ :เข้าถึง วันที่ 27 ธันวาคม 2561
https://news.mixi.jp/view_news.pl?id=5428489&media_id=220 http://azechifoods.com/ http://news.livedoor.com/article/detail/15773907/ *** ข้อคิดเห็น/ข้อแนะนำ การปรับตัวและการคิดค้นนวัตกรรมใหม่นับเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เช่น บริษัทอาหาร AZECHI มีการนำสินค้าหลักของธุรกิจ คือ การจำหน่ายข้าวโพดคั่ว โดยนอกจากข้าวโพดคั่วส าหรับการบริโภค เพื่อความสุขแล้ว บริษัทนี้ยังเพิ่มตลาดในการจำหน่ายส าหรับธุรกิจการขนส่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าและเพิ่ม ตลาดของสินค้า ทั้งยังสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ การใช้ข้าวโพดคั่วมาเพื่อทดแทนการใช้วัสดุกันกระแทกแบบดั้งเดิม อย่างเช่น แผ่น พลาสติกอัดอากาศ, โฟม, แผ่นกระดาษลูกฟูก, ฝอยกระดาษนั้น ยังเป็นการช่วยในเรื่องของการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม ช่วยลดการก่อให้เกิดขยะ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรมฯ ในด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Ecology) อีกด้วย ทั้งนี้ การเรียนรู้จากการปรับตัวของบริษัทอาหาร AZECHI ในครั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยก็สามารถนำ แนวคิดนี้มาพัฒนาปรับใช้ได้ เพราะไม่เพียงแต่การผลิตและจำหน่ายข้าวโพดในการบริโภคเท่านั้น หากแต่ยัง สามารถนำมาใช้เป็นวัสดุทางเลือกในธุรกิจการขนส่งโลจิสติกส์ ที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและยังสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้แก่ผู้รับอีกด้วย
ข้อมูล : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซากา ระหว่างวันที่ 23-29 ธันวาคม 2561