EU:ปรับข้อกำหนดในการควบคุมการผลิตและการติดฉลากสินค้าอินทรีย์

  • warning: Creating default object from empty value in /home/thaiorga/domains/thaiorganictrade.com/public_html/sites/all/modules/openwebmini/openoai/ioai/ioai.module on line 591.
  • strict warning: Non-static method flag_flag::factory_by_row() should not be called statically in /home/thaiorga/domains/thaiorganictrade.com/public_html/sites/all/modules/contrib/flag/flag.module on line 1424.
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2561 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2018/1584 of 22 October 2018 amending Regulation (EC) No 889/2008 laying down detailed rules for the implementation of Council Regulation (EC) No 834/2007 on organic production and labelling of organic products with regard to organic ใน EU Official Journal L 150/17 ซึ่งเป็นการปรับข้อกำหนดในการควบคุมการผลิตและการติดฉลากสินค้าอินทรีย์ สรุปสาระสำคัญของประกาศดังกล่าว ดังนี้ 1. คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วเห็นควรปรับข้อกำหนดในการควบคุมการผลิตและการติดฉลากสินค้าอินทรีย์ ดังนี้ 1.1 อนุญาตให้ใช้คอเลสเตอรอล (cholesterol) เป็นอาหารเสริมในการเลี้ยงกุ้งขาว(penaeid shrimps) และกุ้งน้ำจืด (Macrobrachium spp.) ในช่วงการเจริญเติบโตของตัวอ่อน จากเดิมที่อนุญาตให้ใช้อาหารเสริมธรรมชาติ (supplementary natural feed) เฉพาะช่วงขุน (grow-out stage) ตามมาตรา 25l(3)(b) Commission Regulation (EC) No 889/2008 1.2 อนุญาตให้ใช้แร่ธาตุ (minerals) จุลธาตุ (trace elements) วิตามิน (vitamins) กรดอามิโน (amino acids) หรือสารอาหารรอง (micronutrients) ในการผลิตอาหารเด็กทารกอินทรีย์สำหรับเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก 1.3 ขยายเวลาการอนุญาตให้สามารถเลี้ยงลูกไก่ไข่ที่ไม่ใช่อินทรีย์ (non-organically reared pullets) ที่มีอายุไม่เกิน 18 สัปดาห์ เพื่อผลิตไข่อินทรีย์ ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 (จากเดิมอนุญาตจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561) เนื่องจากลูกไก่ไข่อินทรีย์มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ 1.4 ขยายเวลาการอนุญาตการใช้โปรตีนที่ไม่ใช่อินทรีย์ (non-organic protein feed) ในการเลี้ยงสุกรและสัตว์ปีก ในอัตราไม่เกินร้อยละ 5 ของอาหารสัตว์ทั้งหมด ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 (จากเดิมอนุญาตจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561) เนื่องจากโปรตีนอินทรีย์มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ 1.5 ให้ปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งการปฏิบัติที่ไม่ปกติ และการละเมิดกฎของสินค้าเกษตรอินทรีย์จากประเทศสมาชิกฯ ตามระบุในมาตรา 94(1) Regulation (EC) No 889/2008 1.6 อนุญาตให้สารจากการผลิตน้ำตาล (industrial lime from sugar production) และสารให้ความหวาน xylite นำมาเป็นปุ๋ยในการทำเกษตรอินทรีย์ได้ โดยให้บรรจุสารดังกล่าวใน Annex II Regulation (EC) No 889/2008 1.7 อนุญาตให้สารสกัดจากกระเทียม (garlic extract) COS-OGA Salix spp. Cortex (สารสกัดจากเปลือกต้นวิลโลว์) และ sodium hydrogen carbonate สามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ในการทำเกษตรอินทรีย์ได้ โดยอนุญาตให้สารดังกล่าวบรรจุใน Annex II Regulation (EC) No 889/2008 1.8 อนุญาตให้ใช้โปรตีนจากมันฝรั่ง (potato proteins) สารสกัดโปรตีนจากยีสต์ (yeast protein extracts) และไคโตซานที่ได้จากเชื้อรา (chitosan derived from Aspergillus niger) เพื่อเป็นสารช่วยให้ไวน์มีความใส นอกจากนี้ ได้กำหนดให้ยีสต์ที่หมดฤทธิ์ (inactivated yeast) ออโตไลเสทของยีสต์ (autolysates of yeast) เปลือกของยีสต์ (yeast hulls) แมนโนโปรตีนของยีสต์ (yeast mannoproteins) และไคโตซานที่ได้จากเชื้อรา (chitosan derived from Aspergillus niger) สามารถใช้ในการผลิตไวน์อินทรีย์ โดยให้สารดังกล่าวบรรจุใน Annex VIIIa Regulation (EC) No 889/2008 1.9 อนุญาตให้ใช้ sodium hydroxide ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในการเลี้ยงผึ้ง 2. กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ 20 วันหลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศในวันที่ 23 ตุลาคม 2561) 3. รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าวสามารถศึกษาได้จากเวปไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32018R1584...
AttachmentSize
the_new_eu_organic_regulation_final.pdf735.86 KB